5 อันดับน้ำมันที่เหมาะแก่การนวด (Massage oil)
| On ก.ค.07,20171. Sweet almond oil
น้ำมันที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายหลากหลายชนิด เช่น Folic Alpha tocopherol (Vitamin E) Zinc ซึ่งช่วยในเรื่องรักษาอาการผิดปกติของผิวหนัง นอกจากนั้นยังมี Vitamin A B1 B2 B6 D และ Glycoside ซึ่งช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวหนัง และยังมีกรดไขมันจำเป็นอย่าง Linoleic (Omega-6) ถึง 30% ช่วยลดการสูญเสียน้ำภายใต้ผิวหนัง และด้วยความที่น้ำมันอัลมอนด์สามารถซึมสู่ผิวหนังได้ดีแต่ก็ไม่ไวจนเกินไปจึงเหมาะสมกับการนำมาใช้ในการนวด
2.โจโจบาออย์ (Jojoba oil)
น้ำมันกึ่งแว๊กซ์ (wax) ด้วยความที่องค์ประกอบของกรดไขมันคล้ายคลึงกับไขมันที่พบภายใต้ผิวหนังทำให้สามารถดูดซึมได้ลึกและไว นอกจากนั้นแล้วยังช่วยควบคุมการหลั่งของไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงมักถูกนำมาผสมใช้ในน้ำมันนวด อีกทั้งยังเป็นน้ำมันที่สามารถเก็บได้นานยากต่อการเหม็นหืนอีกด้วย แต่ด้วยความที่ราคาค่อนข้างสูงจึงมักถูกนำมาผสมใช้กับน้ำมันตัวอื่นๆ
3.Grapeseed Grape seed Oil
น้ำมันเมล็ดองุ่นเป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเย็นออกจากเมล็ดองุ่นและผ่านกระบวนการเพื่อนำสิ่งปนเปื้อนและตะกอนออกไปโดยมีองค์ประกอบของกรดไขมันเช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่าง Oleic, Linoleic ที่สูงถึง 90 % นั้นช่วยส่งเสริมฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นแล้วกรดไขมันจำเป็นอย่าง Linoleic (Omega-6) และวิตามิน E ยังช่วยให้น้ำมันมีคุณสมบัติที่สามารถซึมผ่านได้ไวและยังช่วยในการบำรุงผิวหนังที่แห้งเสียให้ฟื้นกลับมาอีกด้วย
4.Apricot kernel มีส่วนประกอบหลักของมันได้แก่ Oleic acid มากถึง 60% ของน้ำมันทั้งหมดซึ่งกรดไขมันได้กล่าวช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและความนุ่มแก่ผิวหนัง และยังมี Linoleic acid (Omega-6) ถึง 30 % ช่วยป้องกันผิวหนังเสื่อมก่อนวัยและช่วยเพิ่มความยืดยุ่นแก่ผิวหนังจะเห็นได้ว่าเจ้าเมล็ดแอพพริคอทนั้นเต็มไปด้วยกรดไขมันที่มีประโยชน์จึงทำให้มันเป็นอีกหนึ่งน้ำมันที่น่าสนใจในการบำรุงผิวหนังและเส้นผมหรือแม้แต่ใช้ในสปา
5. Olive น้ำมันมะกอก น้ำมันมะกอกมีกรดไขมัน (กรดโอเลอิก หรือ โอเมก้า 9) ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน นุ่ม ลื่น น่าสัมผัส นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระคือ Tocopherol สูงถึง 200 mg/kg รวมถึงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น carotenoids,
squalene, phytosterols, chlorophyll และสารประกอบฟีนอล ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง และยังมีเบตาแคโรทีน รูทีน ที่เป็นสารสีเหลือง จะเห็นได้ได้ว่าน้ำมันมะกอกนั้นมีสีเหลือง เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้อยู่ ซึ่งการที่มีสารต้ารอนุมูลอิสระหลายตัว จะช่วยให้ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอนุมูลอิสระนี้ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น